ในประเทศญี่ปุ่น จะเห็นได้ชัดว่าตามสถิติของประชากรที่นี่มีอายุยืนยาวมากที่สุดในโลก เฉลี่ยเกิน 100 ปีมากกว่า 20,000 คน อีกทั้งสุขภาพร่างกายของพวกเขาก็ยังแข็งแรง ตรวจพบว่ามีปริมาณคอเลสเตอรอลที่ต่ำ โรคอ้วนและโรคหัวใจพบน้อยมาก อีกทั้งจากงานวิจับยังพบว่าพฤติกรรมการทานของคนญี่ปุ่นนี่แหละที่เป็นต้นตอสำคัญ ซึ่งช่วยให้พวกเขามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ครองแชมป์ประชากรที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลก เนื่องจากว่าพวกเขาจะเลือกรับประทานผักมากถึง 3 เท่า และปลามากถึง 2 เท่า ของอาหารแต่ละมื้อ ควบคู่ไปกับอาหารที่ปรุงรด้วยน้ำมันงา 100% ซึ่งเป็นสิ่งที่คนญี่ปุ่นนิยมมาก
หลายงานวิจัยได้พร้อมใจกันสนับสนุนว่า การกินปลา และเนื้อไม่ติดมัน คาร์โบไฮเดรตที่ดีอย่างข้าวกล้อง ผักและผลไม้ ตลอดจนน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว อย่างเช่น น้ำมันงาที่สกัดจากเมล็ดงาเล็กๆ ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน และธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงเลือด ธาตุสังกะสีบำรุงผิวหนัง
โดยเฉพาะในน้ำมันงานั้นมี แคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ไม่ทำให้เป็นตะคริวง่าย อีกทั้งมีแคลเซียมมากกว่าพืชผักถึง 40 เท่า มีฟอสฟอรัสมากกว่าพืชผักถึง 20 เท่า ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้เจริญเติบโตแข็งแรง อุดมไปด้วยวิตามินบี ดังนั้นการบริโภคน้ำมันงาเป็นประจำจะช่วยให้นอนหลับ กระปรี้กระเปร่า ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง ป้องกันโรคเหน็บชา ตลอดจนกรดไขมันไม่อิ่มตัวจะช่วยควบคุมคลอเลสเตอรอล ป้องกันโรคหัวใจและโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด
ที่สำคัญในน้ำมันงายังมี กรดไลโนเลอิค จำเป็นอย่างยิ่งต่อการสร้างฮอร์โมน มีประโยชน์ต่อร่างกายมากๆ ช่วยในการขยายหลอดเลือด ลดความดันเลือด
สุดท้าย สารเซซามอล ในน้ำมันงายังช่วยป้องกันและต้านทานโรคมะเร็ง เรื่องความสวยความงามวิตามินอี ช่วยได้เพราะมีสรรพคุณทำให้ร่างกายสดชื่น ไม่เหี่ยวย่น หากใช้น้ำมันงาทาเส้นผมก็ช่วยให้ผมดำเป็นมัน ไม่แตกปลาย เรียกได้ว่าจิ๋วแต่แจ๋วจริงๆ ด้วยเหตุผลนี้นี้เอง ที่ทำไมชาวญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่ง เกาหลี และจีน ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพ จึงนิยมนำน้ำมันงามาปรุงในอาหารเกือบทุกเมนู
นอกจากจะรู้จักเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว อายุจะยืนได้ก็ต้องหมั่นออกกำลังกายควบคู่ไปอีกทั้งบริหารสุขภาพจิต ให้อารมณ์ดี สดใสอยู่เสมอ ทุกครั้งที่หัวเราะฮอร์โมนคอร์ติโซน ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพจะหลั่งน้อยลง แล้วจะมีสารเคมีดีๆ เช่น เอ็นโดรฟิน อะดรีนาลีน หลั่งออกมาแทน ทำให้เรามีความสุข ผ่อนคลายไม่เครียด.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
หลายงานวิจัยได้พร้อมใจกันสนับสนุนว่า การกินปลา และเนื้อไม่ติดมัน คาร์โบไฮเดรตที่ดีอย่างข้าวกล้อง ผักและผลไม้ ตลอดจนน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว อย่างเช่น น้ำมันงาที่สกัดจากเมล็ดงาเล็กๆ ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน และธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงเลือด ธาตุสังกะสีบำรุงผิวหนัง
โดยเฉพาะในน้ำมันงานั้นมี แคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ไม่ทำให้เป็นตะคริวง่าย อีกทั้งมีแคลเซียมมากกว่าพืชผักถึง 40 เท่า มีฟอสฟอรัสมากกว่าพืชผักถึง 20 เท่า ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้เจริญเติบโตแข็งแรง อุดมไปด้วยวิตามินบี ดังนั้นการบริโภคน้ำมันงาเป็นประจำจะช่วยให้นอนหลับ กระปรี้กระเปร่า ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง ป้องกันโรคเหน็บชา ตลอดจนกรดไขมันไม่อิ่มตัวจะช่วยควบคุมคลอเลสเตอรอล ป้องกันโรคหัวใจและโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด
ที่สำคัญในน้ำมันงายังมี กรดไลโนเลอิค จำเป็นอย่างยิ่งต่อการสร้างฮอร์โมน มีประโยชน์ต่อร่างกายมากๆ ช่วยในการขยายหลอดเลือด ลดความดันเลือด
สุดท้าย สารเซซามอล ในน้ำมันงายังช่วยป้องกันและต้านทานโรคมะเร็ง เรื่องความสวยความงามวิตามินอี ช่วยได้เพราะมีสรรพคุณทำให้ร่างกายสดชื่น ไม่เหี่ยวย่น หากใช้น้ำมันงาทาเส้นผมก็ช่วยให้ผมดำเป็นมัน ไม่แตกปลาย เรียกได้ว่าจิ๋วแต่แจ๋วจริงๆ ด้วยเหตุผลนี้นี้เอง ที่ทำไมชาวญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่ง เกาหลี และจีน ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพ จึงนิยมนำน้ำมันงามาปรุงในอาหารเกือบทุกเมนู
นอกจากจะรู้จักเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว อายุจะยืนได้ก็ต้องหมั่นออกกำลังกายควบคู่ไปอีกทั้งบริหารสุขภาพจิต ให้อารมณ์ดี สดใสอยู่เสมอ ทุกครั้งที่หัวเราะฮอร์โมนคอร์ติโซน ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพจะหลั่งน้อยลง แล้วจะมีสารเคมีดีๆ เช่น เอ็นโดรฟิน อะดรีนาลีน หลั่งออกมาแทน ทำให้เรามีความสุข ผ่อนคลายไม่เครียด.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
